Category Archives: เทคโนโลยีอินเตอร์เน็ต

travel gadgets ที่ควรมีติดกระเป๋าเดินทาง

การเดินทางตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันอุปกรณ์ชิ้นสำคัญๆ ที่นักเดินทางมักพกติดตัวก็คงหนีไม่พ้น เต้นท์ ไฟฉาย ยาสามัญ กล้องถ่ายรูป และอื่นๆ แต่เมื่อโลกก้าวเข้าสู่ยุคดิจิตอลที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทสำคัญต่อชีวิตของมนุษย์เรามากขึ้น ดังนั้น อุปกรณ์เจ๋งๆ ก็ถูกสร้างสรรค์และเพิ่มขึ้นมาเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักเดินทางมากมาย ดังนั้นสิ่งที่ควรมีติดกระเป๋าเดินทางในทุกๆ ทริป ที่จะช่วยสร้างความสุขกับการเดินทางมีด้วยกันดังนี้

– Samsung Galaxy Camera สำหรับผู้ชื่นชอบการถ่ายรูปในยุคดิจิตอลที่นอกจากจะอยากได้กล้องความละเอียดทั้งภาพนิ่งและภาพวิดีโอสูงแล้ว หากกล้องสักตัวจะสามารถช่วยเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต หรือแต่งภาพผ่านแอพฯ ต่างๆ พร้อมอัพเข้าสู่โลกโซเชียลมีเดียอย่าง Facebook Twitter หรือ instagram เพียงแค่สัมผัส พร้อมแอพพลิเคชันมากมายเอาไว้เล่นแก้เหงาระหว่างเดินทางได้และยังสามารถบันทึกวิดีโอแบบ full HD video ได้อีกด้วย

– X Mini V1.1 เป็นลำโพงตัวจิ๋วขนาดพกพา สามารถพกพาติดกระเป๋าเดินทางไปได้สะดวกทุกที่กับขนาดที่เล็กกะทัดรัดสามารถเชื่อมต่อกับ iPod iPhone หรือเครื่องเล่นเพลงได้

– SmartPhone ปัจจุบันอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีชั้นยอดเต็มเครื่อง ไม่ว่าจะเป็นการท่องโลกอินเทอร์เน็ต หรือโซเชียลมีเดียแก้เหงาระหว่างเดินทาง มี GPS หรือแผนที่ให้ได้ค้นหาแหล่งท่องเที่ยวและสามารถนำทางไปให้ถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย อีกทั้งยังสามารถถ่ายรูปสวยๆได้อีกด้วย นอกจากนี้แอพพลิเคชันก็ถูกพัฒนาออกมารองรับการใช้งานมากมายพร้อมให้ดาวน์โหลดมาใช้ได้สะดวกใน App Store

– Swiss Army Knife เป็นเครื่องมือพกพาสารพัดประโยชน์ ที่นอกจากมันจะมีเครื่องมืออย่าง มีดพก กรรไกร และตะไบให้เลือกใช้ภายในแล้วยังติดตั้ง USB flash drive ความจุ 32GB สำหรับการถ่ายโอนรูปภาพจากกล้องดิจิตอลหรือข้อมูลการเดินทางหรือไฟล์สำคัญๆที่ช่วยเพิ่มความปลอดภัยสำหรับการเก็บข้อมูลสำคัญอีกด้วย

– Sanyo eneloop Mobile Booster ที่ช่วยอำนวยความสะดวกโดยไม่ต้องกังวลว่าแบตเตอรี่จะหมดเมื่อใด ซึ่งรองรับการชาร์ตได้หลากหลายอุปกรณ์

ดังนั้น เครื่องมือที่กล่าวมานี้เป็นการพัฒนาทางด้านเทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ถ้าหากเรารู้จักใช้ เพราะเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ได้อย่างหลากหลายและช่วยให้การเดินทางเป็นไปอย่างสนุกและเพลินเพลินอีกด้วย

สุดยอดนาฬิกาอัจฉริยะช่วยติดตามพฤติกรรมของเด็ก

สุดยอดนาฬิกาอัจฉริยะช่วยติดตามพฤติกรรมของเด็ก
POMO Kidswatch สุดยอดนาฬิกาอัจฉริยะที่สามารถช่วยติดตามพฤติกรรมของเด็กได้ นาฬิกาอัจฉริยะตัวใหม่ล่าสุดที่เป็นได้ทั้งนาฬิกา โทรศัพท์ และ GPS tracker ในเวลาเดียวกัน คำนึงถึงความปลอดภัยของเด็กเป็นสำคัญ เหมาะสาหรับผู้ปกครองที่ต้องการติดต่อสื่อสารกับเด็ก รับสัญญาณแจ้งเตือนสถานที่ของนาฬิกา ณ เวลานั้น หรือแจ้งเตือนอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเด็ก

ฟังก์ชันการใช้งานถึง 10 ฟังก์ชัน ที่สามารถตอบสนองและเข้าใจอินไซด์ของคนเป็นพ่อแม่ได้เป็นอย่างดี ใช้งานง่ายเพียงแค่ใส่ซิมการ์ดและเชื่อมต่อกับโทรศัพท์มือถือผ่านแอพพลิเคชั่น (POMO Kids Application) ดาวน์โหลดได้ทั้ง Android และ iOS นอกจากนี้ คุณยังสามารถตั้งค่าการใช้งานส่วนตัวได้เอง ตามเวลาในชีวิตประจำวันของพ่อแม่และเวลาเรียนรู้ของเด็ก โดยไม่ให้ส่งผลกระทบกับเวลาเรียนหรือแม้กระทั่งเวลาทากิจกรรม เช่น ตั้งปิดเสียงนาฬิกาขณะที่เด็กกำลังเรียนหนังสือ เป็นต้น

ลักษณะเด่นของนาฬิกา POMO Kids

  1. ทั้งรับและโทรได้ในเครื่องเดียว (Voice Calling) คุณสามารถกำหนดเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวให้สามารถโทรหานาฬิกา POMO ได้สูงสุด 8 เบอร์ ในขณะที่นาฬิกาสามารถกดโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัวที่คุณตั้งค่าไว้ได้สูงสุด 3 เบอร์ ตามปุ่มบนนาฬิกา
  2. ระบบ GPS ติดตามนาฬิกา (Smart Locator) ระบบการทางานของนาฬิกา POMO Kids ถูกออกแบบมาให้ทำงานร่วมกันระหว่าง GPS และ GSM ดังนั้น ผู้ปกครองสามารถค้นหาสถานที่ของนาฬิกา ณ ปัจจุบันขณะได้ทุกเวลาที่ต้องการซึ่งปรากฏบนแผนที่ และยังสามารถค้นหาสถานที่ของเด็กได้ทีละหลายคนพร้อมกันในกรณีที่คุณมีลูกมากกว่า 1 คน ด้วยการสร้างโปรไฟล์เด็กแต่ละคนขึ้นมาใหม่ (สูงสุด 8 คน)
  3. พื้นที่ปลอดภัยที่คุณกำหนดเอง (Safe Zone) เริ่มต้นใช้งานฟังก์ชัน Safezone ได้หลังจากที่ดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่น POMO Kids และเชื่อมต่อสัญญาณผ่าน wi-fi ฟังก์ชันนี้จะช่วยให้คุณกาหนดพื้นที่ปลอดภัยของเด็กให้เหมาะสมกับกิจกรรมต่างๆ เช่น พื้นที่ในบริเวณโรงเรียน การทำกิจกรรมนอกชั้นเรียน ร้านหนังสือ หรือแม้กระทั่งอยู่ที่บ้าน เมื่อเด็กออกนอกพื้นที่ปลอดภัยที่คุณกาหนดไว้ คุณจะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ และทราบทันทีว่าขณะนี้เด็กกาลังอยู่ในส่วนไหนของแผนที่
  4. รายงานอุบัติเหตุได้ทันท่วงที (Accident Report) กรณีที่เด็กได้รับอุบัติเหตุหรือหกล้ม คุณจะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้ความช่วยเหลือเด็กได้อย่างทันท่วงที
  5. เซ็นเซอร์ตรวจจับนาฬิกาหลุด (Watch fall off alarm) กรณีที่นาฬิกาถูกถอดออกจากไปจากข้อมือของเด็กหรือหลุดโดยบังเอิญจากการทากิจกรรม คุณจะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ ป้องกันความเสี่ยงนาฬิกาหายและสามารถให้ความความช่วยเหลือได้ทันทีในกรณีที่เด็กถูกลักพาตัว
  6. เชื่อมต่อผ่านบลูทูธก็ง่าย (Anti-lost alarm in short-distance travel) การเดินทางไปท่องเที่ยวไกลๆ กับเด็ก หรืออยู่ในสถานที่ที่ไม่มีสัญญาณ wi-fi คุณสามารถเชื่อมต่อนาฬิกากับโทรศัพท์มือถือของคุณไว้ด้วยกันผ่านบลูทูธ เมื่อเด็กห่างจากผู้ปกครองไป 5-10 เมตร คุณก็จะได้รับสัญญาณแจ้งเตือนทางโทรศัพท์มือถือ
  7. ส่งข้อความเสียงสั้นๆฉับไว (Voice Messageing) คุณสามารถส่งข้อความเสียงสั้นๆ ไปยังนาฬิกาได้โดยที่ไม่ต้องกดโทรออก (**หมายเหตุ – ฟังก์ชันนี้สามารถใช้ได้เฉพาะเบอร์โทรศัพท์คนในครอบครัว 3 เบอร์แรกเท่านั้น)
  8. ปุ่ม SOS เมื่อมีเหตุเร่งด่วน (Intelligent Emergency) อุบัติเหตุเกิดขึ้นได้ทุกที่ทุกเวลา เมื่อเด็กต้องการความช่วยเหลือเร่งด่วน แค่เพียงกดปุ่ม ‘SOS’ (ซ้ายกลาง) นาฬิกาจะทำการโทรออกไปยังเบอร์โทรศัพท์ตามลำดับตั้งแต่หมายเลขโทรศัพท์คนในครอบครัว 1-3 ตามลำดับที่คุณตั้งค่าไว้ ภายในเวลา 3 วินาที จนกว่าจะมีคนรับสาย
  9. หลังจากโทรออกเรียบร้อยแล้ว นาฬิกาจะทำการอัพเดตสถานที่ของนาฬิกาในขณะนั้นทุก 60 วินาที ผ่านข้อความมายังโทรศัพท์มือถือทุกเบอร์ (**หมายเหตุ-ตั้งค่าได้สูงสุด 8 เบอร์ ที่คุณอยากให้ได้รับข้อความได้) เพื่อไม่ให้คุณพลาดความเคลื่อนไหวที่อาจเป็นอันตรายต่อเด็ก
  10. เครื่องนับก้าว (Pedometer)
  11. กันยุงก็ได้หายห่วง (Mosquito repellent) นาฬิกา POMO สามารถป้องกันยุงได้ด้วยเทคโนโลยีคลื่นเสียงพิเศษที่ปล่อยออกมาที่ 16-20 KHg ซึ่งมนุษย์เองไม่สามารถได้ยินนอกจากยุงเท่านั้น เป็นเสียงที่ทำให้ยุงไม่อยากเข้าใกล้

แอพพลิเคชั่นมีส่วนช่วยให้ยอดขายมือถือเพิ่มมากขึ้น


ปัจจุบันอุปกรณ์สื่อสารที่ใช้ในการพกพา ซึ่งนอกจากจะใช้งานได้ตามพื้นฐานของโทรศัพท์แล้ว ยังทำงานได้เหมือนกับเครื่องคอมพิวเตอร์เนื่องจากเป็นอุปกรณ์ที่พกพาได้จึงมีคุณสมบัติเด่น คือ ขนาดเล็กน้ำหนักเบาใช้พลังงานค่อนข้างน้อย ปัจจุบันมักใช้ทำหน้าที่ได้หลายอย่างในการติดต่อแลกเปลี่ยนข่าวสารกับคอมพิวเตอร์ การพัฒนาโปรแกรมประยุกต์สำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ เช่น โทรศัพท์มือถือแท็บเล็ตโดยโปรแกรมจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค อีกทั้งยังสนับสนุนให้ผู้ใช้โทรศัพท์ได้ใช้ง่ายยิ่งขึ้น ในปัจจุบันมีหลายระบบปฏิบัติการที่พัฒนาออกมาให้ผู้บริโภคใช้ ส่วนที่มีคนใช้และเป็นที่นิยมมากก็คือ ios และ Android จึงทำให้เกิดการเขียนหรือพัฒนา Application ลงบนสมาร์ทโฟนเป็นอย่างมาก อย่างเช่น แผนที่, เกมส์, โปรแกรมคุยต่างๆ และหลายธุรกิจก็เข้าไปเน้นในการพัฒนา Mobile Application เพื่อเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้ามากขึ้น

การพัฒนาระบบแอพลิเคชั่นต่างๆรวมถึงมัลติมีเดียบนอุปกรณ์เคลื่อนที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความประทับใจในการนำเสนอข้อมูล รวมถึงการพัฒนาระบบใช้งานสำหรับองค์กร เช่น ระบบงานขาย ระบบตรวจสอบสต๊อกสินค้า ระบบจองห้องพัก ระบบนำเสนอสำหรับอสังหาริมทรัพย์ ระบบ E-learning ระบบค้นหาแผนที่เป็นต้น ในส่วนของผู้บริหารสามารถดูรายงานสรุปการขาย รายงานความก้าวหน้าของโครงการ ยอดสินค้าคงเหลือ และรายงานอื่นๆตามต้องการ เป็นต้น ทั้งนี้ยังมีระบบ Back Office เพื่อให้สามารถเพิ่มข้อมูลและบริหารจัดการข้อมูลได้โดยง่าย เหมาะสำหรับธุรกิจองค์กรต่างๆที่ต้องการเจาะกลุ่มลูกค้าคนรุ่นใหม่ ประกอบกับสามารถดาวน์โหลดแอพพลิเคชั่นต่างๆได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย หรือซื้อขายผ่านทางระบบเครือข่ายและมีช่องทางการชำระเงินได้สะดวกรวดเร็ว

ทำให้บริษัทชั้นนำด้านโทรศัพท์มือถือหลายแห่งหันมาให้ความสำคัญกับการพัฒนาโปรแกรมบนโทรศัพท์มือถือโดยเชื่อว่าจะมีอัตราการดาวน์โหลดเพื่อใช้งานที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัดอุปกรณ์สื่อสารที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน คือ โทรศัพท์มือถือแบบสมาร์ทโฟนโดยสัดส่วนของยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนเพิ่มขึ้นมาก โดยเชื่อว่าจะมีอัตราการดาวน์โหลดเพื่อใช้งานที่เติบโตอย่างเห็นได้ชัดมีแนวโน้มที่ดีในอนาคต ผู้ใช้โทรศัพท์เคลื่อนที่มีแนวโน้มการใช้แอพพลิเคชั่นต่างๆมากขึ้นอันเป็นผลมาจากการที่โทรศัพท์เคลื่อนที่สามารถช่วยให้ผู้ใช้รู้สึกสนุกกับกิจกรรมต่างๆได้อย่างมากมาย เช่น ชำระเงิน โอนเงิน อ่านข่าว ดูหนัง ฟังเพลง พูดคุยผ่านอินเทอร์เน็ต หรือเข้าสู่สังคมออนไลน์และการสืบค้นข้อมูลต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ตก็สามารถทำได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว ด้วยเหตุนี้องค์กรธุรกิจต่างๆจึงมีการแข่งขันกันให้บริการด้านแอพพลิเคชั่นกันอย่างดุเดือดทั้งนี้เพื่อมุ่งตอบสนองความต้องการของลูกค้า

แนะนำ Gadget ที่น่าสนใจสำหรับนักปั่น

ปัจจุบันมีผู้ที่ชื่นชอบการปั่นจักรยานกันมากขึ้น ซึ่งการปั่นจักรยานนั้นมีข้อดีหลายอย่าง ทั้งช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง ให้ความสนุกสนาน และสามารถชิลกับบรรยากาศรอบข้างที่แปลกใหม่ได้อีกด้วย ทำให้บริษัททางด้านเทคโนโลยีเริ่มผลิตอุปกรณ์ Gadget เพื่อตอบสนองความต้องการของนักปั่น สำหรับ Gadget ที่น่าสนใจ มีดังนี้

1.ไฟเลี้ยวไร้สาย สัญญาณไฟเลี้ยวแบบเท่ๆ และปลอดภัย จะส่งสัญญาณเสียงพร้อมกับไฟเลี้ยวเพียงแค่คุณกดปุ่มที่ถูกติดตั้งแบบไร้สายกับแฮนด์จักรยาน ช่วยเพิ่มความปลอดภัยมากขึ้น

2.หมวกนิรภัย Hovding สามารถตรวจจับว่าเกิดการชนขึ้นหรือยัง ถ้าเกิดขึ้น หมวกใบนี้จะสูบลมอัตโนมัติเพื่อปกป้องศีรษะเพิ่มความปลอดภัย

3.ชุดแปลงจักรยานเป็นไฟฟ้า Rubbee Drive มีความง่ายในการติดตั้ง เพียงแค่ติดกับที่นั่ง ก็สามารถทำงานได้ทันทีภายใน 1 นาที สามารถให้ความเร็วที่ 15 ไมล์ต่อชั่วโมง และ ขี่ได้ไกล 15 ไมล์ต่อการชาร์ต 1 ครั้ง

4.เต็นท์จักรยาน YardStash การหาที่จอดสำหรับจักรยานก็ไม่ง่ายเสมอไป Yardstash อาจจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เพราะจะทำหน้าที่เป็นเต็นท์ที่สามารถใส่จักรยาน 2 คัน ได้อย่างง่ายดาย และยังเคลือบป้องกันแสง UV อีกด้วย ภายในยังมีที่แขวสำหรับหมวกและอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ยังสามารถพับเก็บได้

5. Sony SmartBand สายรัดข้อมือบอกเล่าเรื่องราวในชีวิตตัวสายรัดข้อมือมาพร้อมกับการทำงานร่วมกันกับแอพลิเคชั่น Lifelog เพื่อเก็บข้อมูลในการปั่น และยังใช้เป็นรีโมทพเพื่อควบคุมสมาร์ทโฟนได้อีกด้วย

6. Jawbone UP24 สายรัดข้อมือเพื่อสุขภาพรุ่นใหม่ล่าสุด ถูกออกแบบมาเพื่อตอบสนองการปั่นจักรยานได้เป็นอย่างดี ตัวสายรัดข้อมือทำจากยางที่ได้รับมาตรฐานการแพทย์โดยไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเมื่อสวมใส่ สามารถเก็บพฤติกรรมและบันทึกพฤติกรรมในการปั่นจักรยานด้วย

7. Runtastic Speed & Cadence Sensor อุปกรณ์ติดตั้งบนจักรยานคันโปรดของคุณเพื่อเปลี่ยนสมาร์ทโฟนของคุณให้กลายเป็นอุปกรณ์วัดความเร็ว และรอบของการปั่นจักรยาน นอกจากนี้ยังสามารถบอกตำแหน่งและประเมินการปั่นจักรยานของคุณว่าอยู่ในระดับไหน

8. Runtastic Heart Rate Combo Monitor สายคาดอกที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีล่าสุด Bluetooth Smart ซึ่งกินไฟต่ำ สามารถใช้งานร่วมกันกับแอพลิเคชั่นของ Runtastic Mountain Bike สำหรับปั่นจักรยาน ตัวแอพลิเคชั่นสามารถตรวจจับอัตราการเต้นของหัวใจขณะออกกำลังกายได้อย่างดี

gadgets มือถือจากจีนกำลังจะมีอิทธิพลต่อตลาด

MG_5350edit
ในปีนี้คาดว่าตลาดของสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตจะยังคงคึกคัก แต่อาจได้เห็นความเปลี่ยนแปลงในเรื่องของความหลากหลายของแบรนด์และยี่ห้อที่ ผู้บริโภคจะเลือกใช้มากขึ้น ในปี 2558 จะได้เห็นการทำตลาดของแบรนด์จีนและไต้หวันมากขึ้น ที่สำคัญผู้ใช้จะหันไปเลือกใช้แบรนด์ทางฝั่งจีนและไต้หวันมากขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากได้สมาร์ทโฟนที่มีสเป็คที่ดีและแรงในราคาที่ถูกกว่าแบรนด์จากเกาหลีและอเมริการอย่าง Samsung และ Apple ค่อนข้างมาก ในขณะที่สมาร์ทโฟนจากจีนและไต้หวันมีราคาที่ย่อมเยาว์ไม่กี่พันบาทแต่สามารถให้สเป็คที่ดีได้ คุณภาพก็ดีและน่าเชื่อถือมากขึ้นด้วย จึงทำให้ตลาดสมาร์ทโฟนในปีนี้อุปกรณ์จากจีนน่าจะมาแรง ยี่ห้อที่เห็นได้ชัดเจนว่าเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น เช่น huawei, oppo, acer, asus

ปัจจุบันมีเทรนด์ Selfie ที่ทำให้ผู้ผลิต Smartphone หลายค่ายตื่นตัวกันมากพอสมควร ช่วงปลายปีเราจะเห็น Smartphone ที่เปิดตัวใหม่ๆ เน้นไปที่กล้องหน้าของเครื่องมากขึ้น เช่น กล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล อย่าง Samsung Galaxy Grand Prime, ZTE Blade Vec และ AIS LAVA Pro 4.5 เป็นต้น ยังไม่รวมแบรนด์ที่จัดเต็มให้กล้องหน้ามามากถึง 13 ล้านพิกเซลเท่ากันกล้องหลัง พร้อม Dual LED Flash อย่าง HTC Desire Eye ดังนั้นในปี 2558 นี้เอง เราจะได้เห็น Smartphone กล้อง 5 ล้านพิกเซลเป็นอย่างต่ำ ออกมากันอีกเพียบ โดยที่มาตรฐานส่วนใหญ่จะไปตกที่ 8 ล้านพิกเซลกันอย่างแน่นอน

เชื่อว่ากลุ่มผู้ผลิตมือถือจากจีนกำลังจะมีอิทธิพลต่อตลาดสูงขึ้นหลังเลอโนโวเพิ่งทำบิ๊กดีลสำเร็จสอยกิจการมือถือโมโตโรล่า โมบิลิตี้มาจากกูเกิล ซึ่งคาดว่าจะยิ่งช่วยผลักดันฐานตลาดมือถือในจีนซึ่งเป็นตลาดใหญ่ของเลอโนโวและของโลกในปัจจุบันอยู่แล้วให้ยิ่งใหญ่ขึ้นไปอีก ยังไม่นับรวมผู้ผลิตมือถือจากจีนที่กำลังไล่บี้กันชิงแชมป์ในตลาดมือถือระดับโลกที่วางโพสิชั่นมือถือของตัวเองไว้เป็นเครื่องมือคู่กายที่ฟังก์ชั่นครบครัน ราคาคุ้มค่าที่ไล่เรียงดูแล้วแทบจะเพียงครึ่งเดียวของมือถือไฮเอ็นด์ของแบรนด์อินเตอร์แถวหน้าในตลาด แน่นอนว่ากลยุทธ์ปล่อยมือถือราคาถูกปูพรมเต็มพื้นที่ของแบรนด์จีนเหล่านี้ยิ่งกดดันให้ค่ายใหญ่ในเอเชียอย่างซัมซุงและแอลจียิ่งต้องเร่งเครื่องแซงให้ขึ้น ซึ่งก็ถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับทุกคนที่ไม่ยึดติดกับแบรนด์ไอโฟนอย่างเดียวที่จะเริ่มมีสมาร์ทโฟนใหม่ๆออกมาให้เลือกมากขึ้นในปีนี้

Gadgets ที่กำลังจะมาถึงยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์รุ่นต่อยอดจากรุ่นเก่ารอคอยที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ

6

ในปี 2013 ที่ผ่านมามีผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยีที่น่าตื่นเต้นเกิดขึ้นมากมาย และในปี 2014 ที่กำลังจะมาถึงยังมีเทคโนโลยีใหม่ๆ และผลิตภัณฑ์รุ่นต่อยอดจากรุ่นเก่ารอคอยที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียที ซึ่งเราไปดูกันซิว่า 10 เทรนด์เทคโนโลยีของปี 2014 จะมี “ของเล่นใหม่” ใดที่น่าสนใจบ้าง Google ให้คำมั่นว่า Google Glass จะเปิดวางขายจริงให้กับประชาชนทั่วไปในสหรัฐอเมริกาในปี 2014 นี้ ซึ่งถือว่าเป็นความท้าทายอย่างยิ่งว่าแว่นตาอัจฉริยะนี้จะได้รับความนิยมมากน้อยเพียงใด และเมื่อ Google กล้าคิดกล้าทำ บริษัทไอทีชั้นนำรายอื่นๆก็ไม่น้อยหน้าก็เตรียมเดินหน้าพัฒนาแก็ดเจ็ตสวมใส่กันอย่างคึกคักเช่นกัน ทั้ง Samsung, LG และ Apple

ในปี 2013 เราได้เห็นความพยายามจากหลายค่ายไอทีชั้นนำที่จะผลักดันให้ Smartwatch สามารถตอบโจทย์ผูู้ใช้ทั่วไปแทนที่การใช้สมาร์ทโฟน แต่เนื่องจากแอพพลิเคชั่นจำนวนมากยังไม่รองรับการใช้งานควบคู่กับ Smartwatch และฟีเจอร์โดยทั่วไปยังวนเวียนอยู่เพียงการแจ้งเตือน ฉะนั้นในปี 2014 จึงเป็นโอกาสที่หลายค่ายที่เปิดตัว Smartwatch ไปแล้วอย่าง Samsung, Sony และ Pebble จะได้ต่อยอดอุปกรณ์สวมใส่ ขณะเดียวกันเราก็จะได้เห็น Smartwatch จาก Google และApple เปิดตัวอย่างเป็นทางการเสียทีหลังจาก Windows 8 โดนโจมตีอย่างหนัก โดยเฉพาะการขาดหายไปของปุ่ม Start ทำให้ไมโครซอฟท์เร่งพัฒนาโอเอส Windows 8.1พร้อมนำปุ่ม Start กลับมาประจำการเช่นเดิม แต่การกลับมาครั้งนี้ไม่สามารถเรียกใช้งานเมนูต่างๆได้เหมือนก่อน อย่างไรก็ดีคาดว่าในปี 2014 จะโอเอสใหม่อย่าง Windows 8.2 เกิดขึ้น พร้อมพัฒนา Modern UI ให้การใช้งานง่าย สะดวกสบายต่อผู้ใช้

ในปี 2014 คอมพิวเตอร์ Chromebook และระบบปฏิบัติการ Chrome OS จะเข้ามามีบทบาทในตลาดโน๊ตบุคมากขึ้น เนื่องจาก Google ตั้งเป้าพัฒนาแอพพลิเคชันแบบออพไลน์สำหรับ Chrome OS มากขึ้น ควบคู่กับการพัฒนาแพลตฟอร์มให้สามารถแข่งขันในตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพบน Chromebook ตลอดจนแท็บเล็ตแบบไฮบริดรุ่นใหม่Oculus Rift VR Headset เปิดตัวไปเมื่องาน CES 2013 อุปกรณ์สวมใส่คล้ายแว่นตาขนาดใหญ่ที่จะช่วยเพิ่มมุมมองได้มากถึง 110 องศา สามารถเปลี่ยนมุมมองได้เองตามการเคลื่อนไหวของผู้ใช้งาน พร้อมแสดงภาพในรูปแบบ 3 มิติด้วย ซึ่งในปี 2014 เป็นโอกาสาอันดีที่จะเกิดเกมใหม่ๆ หรือการพัฒนาเกมเก่าต่างๆ ให้รองรับกับการใช้งาน Oculus Rift VR Headset ได้

แหล่งรวมสินค้าออนไลน์ที่มีแบรนด์ชั้นนำเช่น Gadget และอีกหลากหลายยี่ห้อ

15

ตอนนี้กระแสอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนเข้าถึงได้กำลังมาแรงขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นยักษ์ใหญ่อย่างกูเกิลและเฟซบุ้คที่มีข่าวออกมาเป็นระยะๆ หนึ่งในเครื่องมือสำคัญก็คือการใช้ดาวเทียมยิงสัญญาณมาจากนอกโลก Elon Musk ผู้ก่อตั้ง SpaceX และ Tesla Motors บอกว่ากำลังทำงานร่วมกับอดีตผู้บริหารจากกูเกิลเพื่อพัฒนาอินเตอร์เน็ตที่ทุกคนเข้าถึงได้ อดีตผู้บริหารของกูเกิลคนนี้ก็คือ Greg Wyler ซึ่งตอนนี้ได้กลายเป็นผู้ก่อตั้ง WorldVu Satellites และได้เป็นเจ้าของคลื่นวิทยุอยู่ช่วงความถี่หนึ่งที่สามารถนำมาให้บริการอินเตอร์เน็ตได้ ซึ่งตอนนี้ก็เริ่มมีการพูดถึงการสร้างดาวเทียมเพื่อนำมาใช้ยิงสัญญาณอินเตอร์เน็ต มีการประมาณการณ์ว่าโปรเจคนี้น่าจะใช้ดาวเทียมราวๆ 700 ดวง โดยมีโคโรราโดและฟลอริด้าเป็นพื้นที่ที่น่าจะใช้สร้างโรงงานผลิตดาวเทียม ซึ่งตอนนี้ทาง Musk และ Wyler กำลังมองหาพันธมิตรรายใหม่มาร่วมงานอยู่ สำหรับดาวเทียมที่ใช้นั้น หนึ่งดวงจะมีน้ำหนักประมาณ 113 กิโลกรัม ค่าสร้างอยู่ที่ไม่เกิน 1 ล้านดอลล่าร์ ซึ่งถือว่าถูกกว่าดาวเทียมขนาดเล็กที่ใช้กันอยู่ ส่วนการยิงขึ้นไปบนอวกาศนั้นจะใช้จรวดของ SpaceX เป็นตัวส่ง

ก่อนหน้านี้ทาง Wyler พยายามผลักดันโปรเจคนี้ให้กลายเป็นความจริงสมัยที่ทำงานกับกูเกิล แต่สุดท้ายก็ออกจากบริษัทเพราะขาดคนที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตดาวเทียม จนในที่สุดได้มาเจอกับ Musk ที่มีความชำนาญ ด้วยประสบการณ์จาก Tesla Motors และ SpaceX เพื่อนำมาใช้ในการสร้างโรงงานผลิตดาวเทียม มาตอนนี้ทั้งคู่พยายามหาพันธมิตรรายที่สามที่มีประสบการณ์ด้านดาวเทียมโดยตรงที่จะช่วยเติมเต็มความฝันทั้งคู่ให้เป็นจริงหากว่าท่านกำลังค้นหาผลิตภัณฑ์ของ Gadget รุ่น Gadget เครื่องดักฟัง อุปกรณ์ดักฟัง เสียง อัจฉริยะ N9 และเราเป็นเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ที่ได้รวบรวมเอาสินค้าของ Gadget มารีวิวให้ท่านชมโดยมีรายล่ะเอียดเบื้องต้นและคุณสมบัติการใช้งานส่วนสำหรับราคา ในส่วนของหน้าร้านค้าได้อัพเดทล่าสุดเป็นราคาปัจจุบันแล้ว ให้ท่านกรุณาตรวจสอบ ราคา ส่วนลด โปรโมชั่น ได้ที่หน้าร้านค้าหลัก ซึ่งอาจจะดีกว่าร้านค้าอื่นๆบนอินเตอร์เน็ต

เราเสมือนเป็นแหล่งรวมสินค้าออนไลน์ที่มีแบรนด์ชั้นนำเช่น Gadget และอีกหลากหลายยี่ห้อ หลายประเภท อาทิเช่น แฟชั่น, เสื้อผ้า, เครื่องสำอางค์, เครื่องประดับ, กล้องดิจิตอล, มือถือ, คอมพิวเตอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, เฟอร์นิเจอร์, ของแต่งบ้าน, หนังสือ, ของเล่นเด็ก ฯลฯ ให้ท่านได้เลือกชม หากท่านต้องการค้นหาสินค้าอื่นๆกรุณาใช้ช่อง “ค้นหา” เพื่อเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้ค้นหาสินค้าภายในเว็บไซต์นี้ ทางเว็บไซต์มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้มีโอกาสนำเสนอผลิตภัณฑ์ของ Gadget รุ่น Gadget เครื่องดักฟัง อุปกรณ์ดักฟัง เสียง อัจฉริยะ N9 ให้ท่านชมผ่านทางอินเตอร์เน็ตบนเว็บไซต์นี้หากท่านต้องการทราบรายละเอียดและข้อมูลของ Gadget เครื่องดักฟัง อุปกรณ์ดักฟัง เสียง อัจฉริยะ N9 เพิ่มเติมให้คลิกที่ปุ่มหรือคลิกที่รูปภาพ .. จะนำท่านไปสู่ร้านค้าชั้นนำของเมืองไทย

การพัฒนาและความหมายเบื้องต้น Gadgets เทคโนโลยีใหม่

15

Gadgets คำคำนี้ ระยะหลังเรามักจะได้ยิน ได้ฟัง ได้อ่าน และผ่านหูผ่านตากันบ่อยๆ เคยสงสัยกันบ้างเปล่าเอ่ย ว่าจริงๆ มันคืออะไรกันแน่ไม่รู้ว่าใครจะสงสัยบ้างหรือไม่ สงสัยในความหมายของมัน ว่ามันคืออะไรกันแน่เพราะก็เคยได้ยิน ได้อ่านผ่านตามามั่ง แต่ก็ยังไม่แน่ใจนัก เพราะยังไม่เจอที่อธิบายได้ชัดๆ สักทีก็เลยตั้งหน้าตั้งตาค้นหาข้อมูลดูและจากที่อื่นด้วย ในที่สุดก็เจอ! และพอจะได้ความรู้Gadgets เบื้องต้นที่น่าจะถ่ายทอดให้คนอื่นได้ทราบบ้างเริ่มแรกจากโปรแกรม ThaiSoftware Dictionary V3.0 แปลความGadgetsได้ว่า คือ เครื่องประกอบกระจุกกระจิก จากพจนานุกรมของโปรแกรม Microsoft Office Word 2003 แปลGadgetsได้ว่า คือ เครื่องมือ เครื่องประดิษฐ์ อุปกรณ์ เครื่องประกอบ ซึ่งถ้าดูจากคำแปลที่ได้ตรงนี้ ก็พอจะตีความ(แน๊ะ! ใช้คำว่าตีความซะด้วย)ได้ว่าGadgets น่าจะหมายถึง อุปกรณ์ หรือสิ่งประดิษฐ์ หรืออุปกรณ์เสริม(Optional) ประมาณนั้น  ทีนี้มาดูคำกำจัดความในรูปแบบอื่นบ้าง ในที่นี้คือ ใช้ต่างสภาพแวดล้อม หรือบริบทต่างๆกันไป

วินโดวส์ วิสต้า (Windows Vista) Gadgets คือโปรแกรมขนาดเล็กที่ช่วยให้คุณเพียงแค่เหลือบตาไปมอง ก็จะได้รับข้อมูลหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการบอกเวลาจากนาฬิกา ดูปฏิทิน รับรู้สภาพอากาศ ติดตามข่าวจากเว็บไซต์ ฟังวิทยุ ดูราคาหุ้น เล่นสุโดกุ เขียนโน๊ต ค้นหารายการอาหาร เฝ้าบ้านผ่านเว็บแคม หรือแม้แต่ดูตัวอย่าง หนัง ที่กำลังจะเข้าใหม่ในโรงหนังใกล้บ้านคุณ แทนที่จะต้องเสียเวลาเปิดเบราเซอร์เพื่อไล่ดูข้อมูลรายการเหล่านั้นทีละอย่าง ซึ่งอาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อ และทำให้คุณต้องเสียทั้งสมาธิและเวลาในการทำงาน Gadgets ต่างๆ จะช่วยให้คุณเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้นได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว เพียงแค่จัดวาง Gadgets ที่ต้องการไว้บนเดสก์ท๊อปของคุณเท่านั้นเอง แทบจะทุกข้อมูลที่คุณจินตนาการจะเป็นไปได้อย่างง่ายดายด้วย Gadgets ชนิดต่างๆ Gadgets หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Sidebar Gadgets ครับ เหตุที่เรียกเช่นนั้น อาจเป็นเพราะ ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจัดวาง Gadgets ไว้ด้านข้างของจอภาพ (เดสก์ท๊อป) ดังรูปข้างบนครับ …แล้วการจัดวาง Gadgets จะต้องวางอย่างไร อันนี้เอาไว้เป็นภาคต่อแล้วกัน

สุดยอด Gadget ที่มีอิทธิพลต่อตลาดโลกที่สุดในปี 2014

โดยปกติแล้วเมื่อเข้าสู่ช่วงสิ้นสุดปีเก่า แล้วก้าวเข้าสู่ปีใหม่ ก็จะมีผู้เชี่ยวชาญหลายๆ สำนัก หลายๆ สาขาออกมาจัดลำดับอุปกรณ์หรือผู้คนที่มีอิทธิพลต่อตลาดประจำปีนั้นๆ

วงการอุปกรณ์เทคโนโลยีเองก็ไม่เว้นเช่นเดียวกันที่จะมีการจัดอันดับนั้นๆ เพราะนอกจากจะทำให้เราได้รับรู้ถึงแนวทางของเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไปแล้ว เราอาจจะยังได้รับรู้ด้วยอีกครับว่ามีอุปกรณ์ใดที่มีอิทธิพลกับวงการบ้างทั้งในช่วงที่ผ่านมาและช่วงต่อจากนี้ไปครับ

ล่าสุดทาง Lifehack ได้จัดอันดับ 10 อุปกรณ์ที่มีอิทธิพลตามความเห็นของ Lifehack มากที่สุดในตลาดตลอดช่วงปี 2014 ออกมา จะมีอะไรบ้างนั้นไปรับชมกันได้เลยครับ( 10 อันดับนี้ไม่ได้มีการเรียงลำดับแต่อย่างใด)

1. iPhone 6สำหรับ iPhone 6 ที่เปิดตัวมาทั้ง 2 รุ่นนั้นคงไม่ต้องพูดอะไรกันมากครับ เพราะเรารู้กันดีอยู่แล้วว่า iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่นนั้นสามารถที่จะสร้างกระแสได้อย่างดีมากเลยทีเดียว และคงต้องยอมรับกันจริงๆ ครับว่าในกลุ่มอุปกรณ์สมาร์ทโฟนนั้นไม่ว่าใครก็ฉุดความแรงของ iPhone 6 ทั้ง 2 รุ่นไม่ได้จริงๆ

2. Pillow Talk คุณเป็นคนหนึ่งที่ใช้ชีวิตรักด้วยระยะทางที่ห่างไกลรึเปล่า ถ้าใช่แล้วหล่ะก็อีกไม่นานนี้ชีวิตรักรักของคุณจะใกล้กันมากขึ้นด้วย Pillow Talk หมอนที่จะคอยมอนิเตอร์อัตราการเต้นของหัวใจของคุณแล้วส่งไปที่หมอนคู่มันอีกใบหนึ่งจากนั้นก็จะส่งจังหวะเต้นของหัวใจนั้นออกมาเวลาที่คุณนอนหลับเสมือนกับว่าคุณได้นอนอยู่ใกล้กับคนที่คุณรักอยู่ทุกวัน นอกเหนือไปจากการส่งจังหวะการเต้นแล้วตัวหมอนยังจะส่องแสงอ่อนๆ ออกมาตามจังหวะการเต้นของหัวใจทำให้คุณรู้สึกอบอุ่นใจเวลาที่เข้านอนอีกด้วย

3. Nest Learning Thermostat ในปี 2014 ที่กำลังจะผ่านไปนี้ระบบบ้านอัจฉริยะก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มาแรงเช่นเดียวกันครับ อุปกรณ์ในข้อนี้อาจจะไม่ค่อยเข้ากับบ้านเราที่มีอากาศร้อนมากนักสักเท่าไร แต่ถ้าพูดถึงต่างประเทศที่มีอากาศหนาวเย็นแล้วหล่ะก็อุปกรณ์ชิ้นนี้ได้รับความนิยมมากเลยทีเดียวครับ ลองคิดดูสิครับว่าถ้าคุณสามารถที่จะปรับอุณหภูมิของบ้านคุณให้เหมาะสมได้เพียงแค่ปรับที่ปุ่มตัวเลือกเพียงปุ่มเดียว หรือแม้กระทั่งปรับอุณหภูมิในบ้านให้เหมาะสมไว้ผ่านสมาร์ทโฟนก่อนที่คุณจะกลับถึงบ้านนั้นจะเป็นเรื่องที่ดีมากขนาดไหน อีกทั้งอุปกรณ์ตัวนี้ยังช่วยตัดกระแสไฟฟ้าจากอุปกรณ์ต่อพ่วงอื่นๆ ในเวลาที่ไม่จำเป็นได้อีก ช่วยให้บิลค่าไฟของคุณประหยัดได้ขึ้นอีกเป็นกอง

4. Apple Watch ถึงจะยังไม่ได้มีการวางขายอย่างเป็นทางการในปี 2014 นี้ แต่แค่ทำการเปิดตัวออกมาอย่างเป็นทางการนั้น Apple Watch ก็เรียกเสียงตอบรับได้มากโขอยู่เลยทีเดียวครับ อย่างไรก็ดีครับเราเริ่มได้เห็นอุปกรณ์สวมใส่ที่ออกมาในแนวทางเดียวกันกับ Apple Watch กันแล้ว ทั้งๆ ที่ตัวมันนั้นยังไม่ได้มีการวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ ไม่แน่เมื่อ Apple Watch วางจำหน่ายอย่างเป็นทางการแล้วเราอาจจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของอุปกรณ์สวมใส่ในรูปแบบของ smartwatch กันก็เป็นได้

5. Misfit Shine ปีนี้เป็นอีกปีที่อุปกรณ์สวมใส่นั้นมาแรงเป็นอย่างมากครับ(มาแรงในเรื่องของการเปิดตัว แต่ยอดขายนั้นมีไม่มากเท่าไรนัก) Misfit Shine นั้นก็เป็นอีกอุปกรณ์สวมใส่หนึ่งที่มีลักษณะไม่ได้แตกต่างไปจากนาฬิกาที่เราๆ ท่านๆ ใส่กันในทุกวันนี้ และการทำงานของมันนั้นก็สามารถที่จะทำการสั่งงานผ่านสมาร์ทโฟนได้หมดทุกอย่างอีกด้วย

6. Oculus Rift ปีนี้เป็นปีแห่งอุปกรณ์สำหรับการจำลองภาพเสมือนจริงครับ เราได้เห็นอุปกรณ์ที่ใช้ในการจำลองภาพเสมือนจริงออกมากันอย่างมากมาย ต้องขอบคุณ Oculus Rift ที่ได้เปิดประตูสู่โลกของภาพเสมือนจริงให้กับเราครับ คงไม่มีใครปฏิเสธว่า Oculus Rift นั้นเป็นอุปกรณ์ที่มีฮาร์ดแวร์ดีมากอุปกรณ์หนึ่ง สิ่งที่เหลือก็ขึ้นอยู่กับซอฟต์แวร์แล้วหล่ะครับว่าบรรดาผู้พัฒนานั้นจะสามารถดึงเอาความสามารถของ Oculus Rift นั้นออกมาได้มากแค่ไหน

7. Mophie Space Pack ด้วยเหตุผลประการหนึ่ง Apple เลือกที่จะผลิตสมาร์ทโฟนอย่าง iPhone ของตัวเองนั้นออกมาให้มีขนาดเล็กมากกว่าการที่จะเลือกใส่แบตเตอรี่ความจุสูงเข้าไปเพื่อที่จะยังคงให้ iPhone มีความบางมากที่สุกเท่าที่จะเป็นไปได้ และด้วยความที่แบตเตอรี่ของ iPhone นั้นไม่สามารถที่จะถอดออกมาเปลี่ยนได้ภายใต้การใช้งานในชีวติประจำวันของเราครับ ดังนั้นถึงเวลาที่คุณต้องการ Mophie เคสที่มาพร้อมกับความสามารถเป็นแบตเตอรี่เสริมในตัวช่วยยืดให้ัคุณสามารถใช้ iPhone ได้ยาวนานต่อเนื่องไปอีกอย่างสบาย ๆ โดยไม่ต้องมาคอยกังวลต้องหาที่ชาร์จอีกต่อไป

8.Waterpebble คุณเคยถามตัวเองเวลาที่คุณอยู่ในห้องน้ำหรือไม่ครับว่าคุณจะทำอย่างไรจึงจะสามารถที่จะประหยัดการใช้น้ำให้มากกว่าเดิมจากที่เคยเป็นอยู่ทุกวันนี้ ถ้าคุณเคยถามตัวเองแล้วหล่ะก็ Waterpebble คือคำตอบนั้น ตัวเครื่องมาพร้อมกับความสามารถในการแจ้งเตือนคุณได้ครับว่าเมื่อไรที่คุณอาบน้ำมากจนเกินความจำเป็น เพียงแค่คุณทำการตั้งค่าไว้ว่าคุณอยากจะอาบน้ำในแต่ละครั้งที่ระดับไหนแล้วก็เอา Waterpebble เข้าไปอาบน้ำกับคุณด้วยทุกครั้ง เพียงแค่นั้นคุณก็จะไม่อาบน้ำมาจนเกินไป นอกจากจะช่วยให้ผิวคุณชุ่มชื่นแบบพอดีแล้วยังเป็นการชข่วยประหยัดนำให้กับโลกของเราได้อีกทางหนึ่งด้วย

9. iPad Air 2 ถึงแม้ว่า iPad Air 2 นั้นจะไม่ได้ถือเป็นออริจินัลของแท็บเล็ต แต่ก็ปฏิเสธกันไม่ได้เลยครับว่าแท็บเล็ตตัวนี้ของ Apple นั้นเป็นอะไรที่มาพร้อมกับนวัตกรรมเป็นอย่างมาก ด้วยการอัพเกรดสเปคที่สูงมากขึ้นกว่าเดิม พร้อมทั้งฟีเจอร์ใหม่ๆ อย่าง Touch ID นั้นทำให้ iPad Air 2 มีชื่อเข้ามาอยู่ในกลุ่มของอุปกรณ์ที่มีอิทธิพลต่อตลาดในปี 2014 ได้อย่างง่ายดายครับ นอกไปจากนั้นแล้ว iPad Air 2 ยังมาพร้อมกับประสิทธิภาพในระดับสูงที่เราอาจจะคาดหวังให้เห็นบน iPhone 6s(หรือ iPhone 7) กันอีกอย่างหน่วยประมวลผลแบบ triple-core ก็เป็นได้

10. Aeropress ในช่วงปี 2014 ที่ผ่านมานั้นคงจะไม่มีเครื่องทำกาแฟเครื่องไหนที่ดูโดดเด่นและเรียบง่ายไปมากกว่า Aeropress อีกแล้วครับ เพราะเพียงแค่ใส่น้ำร้อนกับเมล็ดกาแฟน จากนั้นก็เพียงแค่กดเบาๆ ไปที่ตัวเครื่องที่วางคร่อมไว้บนถ้วยกาแฟ คุณก็จะได้กาแฟพร้อมดื่มที่คุณสามารถจะดื่มได้ทุกที่ทุกเวลาไม่ว่าจะอยู่ที่ใด

Gadget อุปกรณ์ในยุคดิจิตอลกับไลฟ์สไตล์ในปัจจุบัน (Gadget & Lifestyle)

ในยุคที่อินเตอร์เน็ตมีบทบาทต่อชีวิตของมนุษย์ทั่วโลก เครื่องมือต่างๆจึงมีวิวัฒนาการเพื่อสอบสนองการใช้งานเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น แล็ปท๊อบ (Laptop), คอมพิวเตอร์ (Computer), สมาร์ทโฟน (Smartphone) หรือแท็บเล็ต (Tablet) ที่ล้วนประดิษฐ์ขึ้นมารองรับความต้องการของคนทุกชนชั้นอย่างสำเร็จรูป และถึงแม้แบรนด์ยักษ์ใหญ่ทั่วโลก อย่างแอปเปิ้ล (Apple), ซัมซุง (Samsung), โนเกีย (Nokia) เป็นต้น ไม่ได้แข่งขันในเรื่องของสมรรถนะการใช้งานเท่านั้น แต่ก็ยังคำนึงถึงความสวยงาม และความมีสไตล์ของสินค้าของตนเองอีกด้วย จึงทำให้เกิดเครื่องมือและอุปกรณ์เสริม (Gadget) มากมายที่วางเรียงรายให้ผู้คนได้เลือกใช้กัน ซึ่งด้วยความหลากหลายของความต้องการทางการตลาด รวมถึงความแตกต่างของไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) อุปกรณ์และเครื่องมือต่างๆ จึงถูกสร้างขึ้นมาให้มีประสิทธิภาพในการใช้งาน ควบคู่ไปกับไอเดียสุดสร้างสรรค์ ดังนั้นอุปกรณ์ชิ้นไหนที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของผู้คนได้ดี ก็ย่อมเป็นที่ดึงดูดใจ และโน้มน้าวให้ผู้คนใช้จ่ายเงินในกระเป๋าได้อย่างง่ายดาย

นับวันเครื่องมือต่างๆ อย่างแล็ปท๊อบ (Laptop), คอมพิวเตอร์ (Computer), สมาร์ทโฟน (Smartphone) หรือแท็บเล็ต (Tablet) เริ่มมีบทบาทต่อชีวิตของมนุษย์มากขึ้น เพราะสิ่งเหล่านี้เข้ามาเอื้ออำนวยความสะดวกในทุกด้านของความเป็นอยู่อย่างไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็น การทำงาน (Working), การติดต่อสื่อสาร (Communication), งานอดิเรก (Hobby), ความบันเทิง (Entertainment), รวมถึงบ่งบอกความเป็นตัวตนของเราเอง (Lifestyle) ได้อีกด้วย

การใช้งานโปรแกรม (Program), แอพพลิเคชั่น (Application) และเบราเซอร์ (Browser) ต่างๆ เช่น เฟสบุ้ค (Facebook), อินสตาแกรม (Instagram, IG), พินเทอร์เรส (Pinterest), กูเกิ้ล (Google), ยูทู้ป (Youtube) รวมถึงเว็บบอร์ดชื่อดังอย่างพันทิพย์ (Pantip) ต่างสะท้อนให้เห็นได้ชัดของความสำคัญของอุปกรณ์เหล่านี้ที่เข้ามาแทรกซึมชีวิตของผู้คนได้อย่างแนบเนียน ดังนั้น Gadget ใดที่สามารถรองรับการใช้งานเหล่านี้ให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น อุปกรณ์เหล่านั้นย่อมเป็นที่สนใจและเป็นที่นิยมอย่างแน่นอน

Gadget อุปกรณ์เสริม ที่กำลังเป็นที่นิยมและมีความต้องการสูงในขณะนี้มีมากมาย ได้แก่ เคส (Case), หูฟัง (Headphone), แบตเตอรี่สำรอง (External Battery) ฯลฯ มีการผลิตออกมาหลากสไตล์หลายรูปแบบ เพื่ออำนวยความสะดวกในการใช้งานด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น การออนไลน์ (Online), การแชท (Chat), การถ่ายภาพ (Camera), การติดต่อสื่อสาร และการดูหนัง (Watching) ฟังเพลง (Music) เป็นต้น ซึ่งคนในยุคนี้ไม่ได้มองหาอุปกรณ์อะไรก็ตามที่ใช้งานได้ดีเท่านั้น แต่ยังมองหาอุปกรณ์ที่สร้างความแตกต่างที่บ่งบอกความเป็นตัวตนหรือไลฟ์สไตล์ (Lifestyle) ได้อีกด้วยอุปกรณ์ที่เราถือ ที่เราใช้ จึงเปรียบเสมือนกับหน้าตาของเรา ไม่ต่างจากเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ และได้กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่เราแทบจะขาดไม่ได้

 

Gadgets สิ่งประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย

Gadgets คำนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันไม่นานนี่เอง จะนำมาใช้ในรูปแบบของโปรแกรมเสริม เล็กๆน้อยๆ เช่น นาฬิกา บนคอมพิวเตอร์ โปรแกรมเสริมการรายงานข่าว และเริ่มมีการใช้กับอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น สิ่งประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยีที่ทันสมัย และมีขนาด ทั้งด้านความจุหรือปริมาณไม่มาก (ขนาดเล็ก) ส่วนใหญ่จะเน้น ด้านความบันเทิง ความสนุก ความสะดวก เราคงจะพอทราบความหมายของคำว่า Gadget กันบ้างแล้วใช้ไหม สรุปก็คือ สิ่งประดิษฐ์ ขนาดเล็กๆ ในดานเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม หรืออุปกรณ์ ก็สามารถเรียกว่า Gadget ได้เหมือนกัน แต่จะเป็นประเภทไหนแค่นั้นเอง

Gadget เทคโนโลยีขนาดเล็ก ซึ่งอาจจะเป็นโปรแกรมหรือสิ่งประดิษฐ์ที่มีใช้งานกันอยู่ในหลาย ๆ ด้าน ส่วนใหญ่จะเป็นด้านความบันเทิง หรือเพื่อเพิ่มความสะดวกสบาย ให้กับเว็บไซต์ ตัวอย่างเช่น นาฬิกา ปฏิทิน หรือโน้ต ชมตัวอย่างเมนูด้านขวามือของผู้อ่าน ปัจจุบันก็มีการเพิ่มลูกเล่น Gadgets ในอุปกรณ์ไอทีมากมาย เช่น

เมาส์เลเซอร์ใช้แค่นิ้วกับพื้นเรียบ
ปัจจุบันผู้ใช้หลายคนคุ้นเคยกับการใช้งานแก็ดเจ็ต Gadgets ต่างๆ ด้วยนิ้วสัมผัส ว่ากันตั้งแต่ทัชแพดบนโน้ตบุ๊คไปจนถึงหน้าจอสัมผัสของสมาร์ทโฟน และล่าสุดก็ iPad ที่ฮอตสุดขีด จนแทบจะไม่ได้ใช้”เมาส์”กันเลย ล่าสุดบริษัท Celluon กำลังพยายามต่ออายุให้กับอุปกรณ์อย่างเมาส์ด้วยดีไซน์ใหม่ที่เอาใจผู้ใช้ที่กำลังต้องการอินเตอร์เฟซระบบสัมผัสมากกว่า โดยการใช้เทคโนโลยีที่คล้ายกับ”คีย์บอร์ดเลเซอร์” (อุปกรณ์ที่สามารถฉายแสงเลเซอร์เป็นรูปคีย์บอร์ดลงบนพื้นเรียบ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถพิมพ์ได้) เพียงแค่วาง evoMouse ลงบนพื้นโต๊ะข้างโน้ตบุ๊คใกล้ๆ กับบริเวณที่คุณชอบวางเมาส์ หลังจากนั้นคุณก็สามารถเปลี่ยนพื้นผิวเรียบบริเวณด้านหน้าของ evoMouse ให้กลายเป็นทัชแพดพร้อมปุ่มกดได้แล้ว เพียงใช้นิ้วมือของคุณแตะ (แทนการคลิก หรือดับเบิ้ลคลิก) หรือเคลื่อนย้ายไปมาเท่านั้น evoMouse (ดีไซน์รูปร่างของมันคล้ายลูกสุนัขเลย) จะมาพร้อมกับเซ็นเซอร์ด้านหน้าที่คอยตรวจจับการเคลื่อนนิ้วของคุณ เพื่อตีความเป็นคำสั่งในการควบคุมพอยน์เตอร์ของเมาส์บนหน้าจอ ซึ่งผู้ใช้สามารถใช้นิ้วควบคุมการทำงานได้ทุกอย่าง ตั้งแต่เลื่อนพอยน์เตอร์เมาส์ เปิด/ปิดโปรแกรม ไปจนถึงลาก (drag & drop) ไฟล์ ซูม/แพน ภาพ และเปิดคอนเท็กซ์เมนู (คลิกขวาบนออบเจ็กต์ต่างๆ บนเดสก์ทอป) evoMouse จะสามารถเชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ได้ทั้งพอร์ต USB หรือ Bluetooth สามารถใช้งานแทนเมาส์ ทัชแพด และสไตลัส นอกจากนี้ยังสามารถใช้เทคโนโลยีรู้จำลายมือ (handwriting recognition) ได้อีกด้วย evoMouse ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคการกดทับเส้นประสาทบริเวณข้อมือ (Carpal Tunnel Syndrome) ได้อีกต่างหาก สนนราคายังไม่มีการเปิดเผยออกมาแต่อย่างใด

นวัตกรรมใหม่ของ Gadget ในการนำมาดัดแปลงด้านแฟชั่น

ระยะหลังมานี้เรามักได้ยินคำว่า Gadget กันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการพรีเซ้นต์งาน ได้ยินจากมสื่อต่างๆ ได้ยินตามวงสนทนาของคนอินเทรนด์ทั้งหลาย แล้วคุณรู้หรือไม่ว่า Gadget คืออะไร Gadget หมายถึงอุปกรณ์คำๆนี้เริ่มเป็นที่รู้จักกันไม่นานนี่เอง จะนำมาใช้ในรูปแบบของโปรแกรมเสริม เล็กๆน้อยๆ เช่น นาฬิกา บน windows 7 โปรแกรมเสริมการรายงานข่าว และเริ่มมีการใช้กับอุปกรณ์ที่ทันสมัย เช่น สิ่งประดิษฐ์ด้านเทคโนโลยีที่มันสมัย และมีขนาด ทั้งด้านความจุหรือปริมาณไม่มาก (ขนาดเล็ก) ส่วนใหญ่จะเน้น ด้านความบันเทิง ความสนุก ความสะดวก สรุปก็คือ สิ่งประดิษฐ์ ขนาดเล็กๆ ในด้านเทคโนโลยี ไม่ว่าจะเป็นโปรแกรม หรืออุปกรณ์ ก็สามารถเรียกว่า Gadget ได้เหมือนกัน แต่จะเป็นประเภทไหนแค่นั้นเองเรียกได้ว่าบรรดาแก็ดเจ็ตต่าง ๆ เข้ามามีบทบาทในชีวิตประจำวันของคนยุคนี้ค่อนข้างมากเลยทีเดียว ดังนั้น จึงมีดีไซเนอร์ของร้านเสื้อผ้าแบรนด์หนึ่งปิ๊งไอเดียเก๋ ๆ โดยจับเอาแฟชั่นมารวมเข้ากับแก็ดเจ็ตไว้ด้วยกัน จนออกมาเป็นชุดสูทเพื่อหนุ่ม ๆ ที่ชื่นชอบการพกพาแก็ดเจ็ตติดตัว

โดยสูทดีไซน์ล้ำสมัยดังกล่าว เป็นฝีมือของดีไซเนอร์จากร้านอินโดชิโนซึ่งได้ปล่อยสูทคอลเลคชั่นใหม่ที่มีชื่อว่า Ultimate Tech Collection ออกมาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ชอบพกแก็ดเจ็ตต่าง ๆ ติดตัวไปไหนมาไหนด้วย ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟน, หูฟัง หรือไอพอด เป็นต้น ซึ่งบรรดาดีไซเนอร์ก็ออกแบบสูทมาเพื่อให้ช่องใส่แก็ดเจ็ตต่าง ๆ ดูกลมกลืนไปกับชุดมากที่สุด เช่น ช่องสำหรับใส่สมาร์ทโฟนหรือไอพอดก็ถูกซ่อนอยู่ด้านในสูท แล้วทำช่องสำหรับดึงสายหูฟังออกมา โดยไม่ให้สายเกะกะอีกด้วย ซึ่งช่องใส่อุปกรณ์เหล่านี้ยังกันน้ำได้อีกต่างหาก ดังนั้นหมดกังวลเรื่องความเปียกชื้นไปได้เลยสำหรับคอลเลคชั่นสูทชุดพิเศษนั้นมีให้เลือกทั้งหมด 5 แบบ 5 สไตล์ ซึ่งความพิเศษของมัน นอกเหนือจากจะมีดีไซน์ที่เก๋เท่ห์แล้ว เนื้อผ้าที่นำมาตัดสูทยังเป็นแบบนาโนเทค อีกด้วย นั้นหมายความว่าสูทรุ่นนี้สามารถป้องกันคราบสกปรกต่าง ๆ ได้ดีขึ้น สูทของทางร้านนี้สามารถสั่งตัดตามความต้องการของลูกค้าได้ด้วยไม่ว่าจะเป็นไซส์ ชนิดของผ้าซับในรวมทั้งปักชื่อย่อให้ เป็นต้น

คำแนะนำในการแก้ปัญหา Gadgets ไม่ทำงานใน Windows 7

หลายคนคงสงสัยว่าแก็ดเจ็ต(gadgets)มันคืออะไรถ้าเปรียบเทียบง่ายๆก็เหมือนแอพพลิเคชั่นทั่วไปที่เราเล่นกันบนมือถือแต่จะไม่ค่อยเป็นแอพพลิเคชั่นใหญ่โตอะไรมากมายพอใช้งานเป็นลูกเล่นในบางส่วนเท่านั้น บางgadgets เองก็ทำออกมาเพื่อใช้งานด้านบันเทิง ด้านบริการต่างๆ หรือช่วยเรื่องความสะดวกสบายในบางเรื่อง

Gadgets คือโปรแกรมขนาดเล็กที่มีความสามารถหลากหลายมากมาย แล้วแต่ผู้ผลิตจะใส่ความสามารถหรือลูกเล่นอะไรเข้าไป เป็นโปรแกรกมเสริมที่ช่วยให้ Windows 7 ทำงานได้ดีขึ้น สะดวกขึ้น เช่น ทำหน้าที่เป็นเครื่องคิดเลข, นาฬิกา, วิทยุออนไลน์, ใช้ฟังเพลง และอื่นๆ อีกมากมาย ในส่วนของ gadgets เองมีออกมานานแล้วใน windows ที่เราใช้กันอยู่ แต่จะไม่ค่อยเป็นที่นิยมกันมากนักเท่าไร นอกเสียจากผู้ที่ชื่นชอบในด้านคอมพิวเตอร์และการตกแต่งโปรแกรมคอมพิวเตอร์จะนิยมดาวน์โหลดและติดตั้งเพื่อใช้งานกัน

วิธีการเรียก Gadgets ขึ้นมาทำงานเพียงแค่คลิกขวาที่หน้า Desktop เลือก Gadgets ก็จะมีหน้าต่าง Gadgets แสดงออกมาให้เลือกใช้ แนะการใช้ Gadgets แต่จะมาแนะนำการแก้ปัญหาของคุณๆ บางท่าน Windows 7 ทำงานผิดผลาดไม่สามารถเปิดใช้ Gadgets ขึ้นมาใช้งานได้ตามปกติ ซึ่งปัญหาที่เกิดก็มีหลายสาเหตุ ในที่นี่ผมจะไปกล่าวถึงสาเหตุ แต่จะแนะวิธีการแก้ไขซึ่งก็มีหลายวิธี ท่านผู้อ่านสามารถเลือกใช้วิธีใดวิธีหนึ่ง ได้หรือจะใช้มากกว่าหนึ่งวิธีการก็ได้

วิธีแก้ปัญหา Gadgets ไม่ทำงานสามารถทำได้ตามวิธีการดังต่อไปนี้
วิธีที่ 1. รีสโตร์ค่าดีฟอลต์ของ Gadget
1.คลิกที่ปุ่ม Start > Control Panel เลือก Appearance and Personalization
2.ที่รายการ Desktop Gadgets ให้คลิกเลือก Restore Desktop Gadgets installed with Windows หน้าต่าง Gadgets ก็จะแสดงออกมา

วิธีที่ 2. Reinstalling Windows Gadget Platform
1.พิมพ์ turn windows feature on or off ลงในช่อง Search ของ Start Menu แล้วกดคีย์ Enter
2.หน้าต่าง Windows Features จะเปิดขึ้นมา ให้คลิกเครื่องหมายถูกที่รายการ Windows Gadget Platform

วิธีที่ 3. ฟีเจอร์ Windows Color Management มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม
1.พิมพ์ color management ลงในช่องว่าง Search ของ Start Menu แล้วกดคีย์ Enter
2.เมื่อหน้าต่าง Color Management เปิดขึ้นมาให้คลิกที่แท็บ Advanced ตรวจสอบให้แน่ใจว่าค่าที่ Device profiles มีค่าเป็น System default ถ้าไม่ก็ตั้งให้เป็นค่า System default

วิธีที่ 4. ลบค่า Zone ใน Registry ทิ้ง
1.พิมพ์ regedit ลงในช่องว่าง Search ของ Start Menu แล้งกดคีย์ Enter
2.ให้ไปตามคีย์ย่อยทางด้านช่องด้านซ้ายดังนี้
HKEY_CURRENT_USER\Software\Microsoft\Windows\CurrentVersion\Internet Settings
3.เมื่อพบคีย์ Zones ซึ่งอยู่ถายใต้คีย์ Internet Settings ให้ลบคีย์นี้ทิ้ง แล้วรีสตาร์ตเครื่อง

ถ้า Gadgets ของเครื่องคุณมีปัญหา ก็สามารถหยิบวิธีใดวิธีหนึ่งในทั้งหมดที่กล่าวมาข้างต้นมาใช้ได้

อัพเดท นวัตกรรม Gadget ใหม่ๆ

ในปี 2013 ที่ผ่านมา เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งปีที่มี Gadget ใหม่ๆ เปิดตัวมากมาย ทั้งเทคโนโลยีที่สวมใส่ได้ อย่างนาฬิกาไฮเทค SmartWatch แว่นตาไฮเทค Google Glasses รวมไปถึงอุปกรณ์เพิ่มความสามารถให้กับ Smart Phone ทำให้โทรศัพท์มือถือทำอะไรได้มากกว่าแค่การโทรออก-รับสายเท่านั้น สำหรับปี 2014 เทคโนโลยีที่น่าจับตามอง คงไม่พ้นเรื่อง การวางจำหน่าย Google Glasses อย่างเป็นทางการ, นาฬิกาไฮเทคจากแบรนด์ดังต่างๆ ที่พร้อมให้ได้จับจอง, สมาร์ททีวีที่สั่งการโดยการเคลื่อนไหว รวมไปถึง การเปิดตัวของผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัท Apple และ Samsung

1. วางจำหน่าย Google Glasses อย่างเป็นทางการ ในปี 2014 Google Glasses แว่นตาไฮเทค จะออกวางจำหน่ายอย่างเป็นทางการ โดยบุคคลทั่วไปที่สนใจสามารถจับจองเป็นเจ้าของได้แล้ว หลังจากปีที่แล้วผู้สนใจต้องเสียค่าใช้จ่าย ราว 1,500 เหรียญ ถึงมีโอกาสได้ทดลองใช้ ด้านคุณสมบัติเด่นที่ทำให้หลายคนอยากเป็นเจ้าของ Google Glasses ก็คงเป็นฟังค์ชั่นเด็ดๆ เช่น การแสดงข้อมูลเส้นทางการเดินทางซอฟท์แวร์แผนที่แบบละเอียดยิบ พร้อมกันนี้ยังสามารถเปิดเว็บท่องอินเทอร์เน็ตได้ในขณะที่กำลังเคลื่อนไหวอีกด้วย

2. จับตานาฬิกาไฮเทคจากแบรนด์ดังต่างๆ กูรูวงการไอทีหลายคนฟันธงว่า ในปี 2014 นาฬิกาไฮเทคจะได้รับความนิยมอย่างสูง โดยหลายต่อหลายบริษัท เตรียมออกผลิตภัณฑ์จำหน่ายกันแล้ว Samsung เตรียมเข็ญนาฬิกาอัจฉริยะรุ่นใหม่ลงตลาด หลังจากรุ่นก่อนที่เปิดตัวในปีที่ผ่านมาไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ ด้าน Apple ก็ไม่น้อยหน้าเตรียมส่ง iWatch สุดยอดนาฬิกาไฮเทคที่สาวก Apple ต่างรอคอย ว่ากันว่า iWatch จะมาพร้อมหน้าจอชนิดที่โค้งงอได้ แถมพรั่งพร้อมไปด้วยแอพพลิเคชั่นต่างๆ มากมาย ที่สำคัญ iWatch ถูกออกแบบมาเพื่อการใช้งานด้านออกกำลังกายโดยเฉพาะ นอกจากนี้ iWatch ยังใช้ระบบ Bluetooth แบบพลังงานต่ำ ทำให้เชื่อมต่อกับ iPhone เพื่อดูการแจ้งเตือนต่างๆได้นานยิ่งขึ้น

3. สมาร์ททีวีสั่งการโดยการเคลื่อนไหวในปี 2014 จะเป็นอีกก้าวหนึ่งของสมาร์ททีวี เพราะโทรทัศน์จะมีความก้าวล้ำนำหน้า ผู้ใช้สามารถควบคุมหรือสั่งการโดยใช้ท่าทางและการเคลื่อนไหวต่างๆ แบบไม่ต้องพึ่งพารีโมทอีกต่อไป ขณะเดียวกันสมาร์ททีวีรุ่นใหม่ๆ ยังใช้เชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตเพื่อให้ผู้ใช้สามารถรับชมข้อมูลข่าวสารทั้งในและต่างประเทศได้อีกด้วย นอกจากนี้ซอฟต์แวร์บนสมาร์ททีวีก็ถูกพัฒนาให้มีความสามารถมากขึ้น เห็นได้จากข่าวลือของการประกาศแผนปรับปรุงซอฟต์แวร์ทั้งของ Samsung และ LG ตลอดจนการเปิดตัว Android TV ของ Google

4. iPhone รุ่นใหม่ หน้าจอใหญ่ขึ้นแน่นอนถ้าพูดถึงมือถือยอดฮิต เชื่อว่าหลายคนคงยกให้ iPhone อย่างแน่นอน จึงไม่แปลกที่ทุกสายตาจะจับจ้องว่า ในปี 2014 จะมีอะไรใหม่ๆ เกิดขึ้นกับ iPhone บ้าง ล่าสุดมีข่าวลือหลุดออกมาอีกระลอกจากวงในของ Foxconn ว่า Appla เตรียมวางจำหน่าย iPhone รุ่นต่อไปพร้อมกันถึงสองขนาด คือหน้าจอ 4.7 นิ้ว และหน้าจอ 5.7 นิ้ว พร้อมกันนี้ยังมีข่าวแว่วแว่วมาอีกว่า iphone รุ่นใหม่นี้มาพร้อมฟังค์ชั่นเด็ด EYE ID สแกนม่านตา เพื่อปลดล็อค แทน Touch ID ด้าน iPad ยักษ์ 12 นิ้ว ก็คาดว่าน่าจะได้เห็นกันภายในปี 2014 แน่นอน

5. Samsung Galaxy Round มือถือจอโค้งมือถือจอโค้งจาก Samsung เปิดตัวและวางขายแล้วในเกาหลีเมื่อปีที่ผ่านมา แม้ยอดขายจะไม่ดีนัก แต่ยังไงเสียการเปิดตัวในครั้งนั้นก็ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่ง ในปี 2014 คาดว่าทาง Samsung จะพัฒนามือถือจอโค้งให้โดนใจผู้ใช้มากขึ้น โดยรายงานข่าวแจ้งว่า Galaxy Round 2 น่าจะเปิดตัวและวางขายทั่วโลกภายในปีนี้ นอกจากมือถือจอโค้งที่หลายคนเฝ้าติดตาม Samsung Galaxy รุ่นใหม่ก็ไม่ควรมองข้ามเช่นกัน เพราะมีข่าวลือว่า Samsung เตรียมเปิดตัว Galaxy รุ่นใหม่ในเร็ววันนี้ ด้านจุดเด่น คงเป็นตัวเครื่องที่จะทำมาจากวัสดุที่เป็นโลหะ หน้าจอขนาด 5 นิ้ว ระบบปฏิบัติการ Android รุ่น KitKat ใหม่ล่าสุด พร้อมกล้องขนาด 16 ล้านพิกเซล แถมอาจมีการเปิดตัวรุ่นที่ตัวเครื่องเป็นพลาสติกอีกด้วยอุปกรณ์ไฮเทค เน้นความสามารถด้านสุขภาพ

หลังจากปีที่แล้วเริ่มมีนวัตกรรมใหม่ๆ เกี่ยวกับสุขภาพมากขึ้น ปีนี้คงเป็นอีกหนึ่งปีที่อุปกรณ์จำพวกเทคโนโลยีเกี่ยวกับสุขภาพและการออกกำลังกายจะได้รับความนิยมอย่างสูง โดยแอพพลิเคชั่นต่างๆ จากทั้งโทรศัพท์มือถือ สายรัดข้อมือ รวมไปถึงนาฬิกาอัจฉริยะต่างๆ ก็เน้นฟังค์ชั่นเรื่องสุขภาพมากขึ้น ทั้งนี้เพื่อรองรับจำนวนผู้บริโภคที่ใส่ใจในสุขภาพที่เพิ่งสูงขึ้นทุกปี

อุปกรณ์ไอที Gadgets สิ่งจำเป็นของนักท่องเที่ยวสำหรับการเดินทาง

นักท่องเที่ยวทั่วโลกส่วนใหญ่ไม่สามารถออกเดินทางได้หากขาดอุปกรณ์ไอที (gadget) โดยสิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจะต้องนำติดตัวไปด้วยสำหรับการพักผ่อน ได้แก่ โทรศัพท์(สมาร์ทโฟนและโทรศัพท์มือถือ) 82 % กล้องถ่ายรูป 77% คอมพิวเตอร์ 52% อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงชนิดอื่นๆ 30%

ด้วยความต้องการที่จะติดต่อสื่อสารตลอดเวลาไม่ว่าจะอยู่มุมไหนของโลก จึงทำให้เทคโนโลยีเปรียบเสมือนเป็นทั้งเพื่อนคู่ใจและสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับนักท่องเที่ยวในการเดินทางพักผ่อน อ้างอิงจากผลการสำรวจของวีซ่าเกี่ยวกับแผนการท่องเที่ยว ฉบับล่าสุดประจำปี พ.ศ. 2556 (Visa Travel Intention Survey 2013) พบสิ่งที่นักท่องเที่ยวชาวไทยจะต้องนำติดตัวไปด้วยสำหรับการพักผ่อน ได้แก่ โทรศัพท์(สมาร์ทโฟนและโทรศัพท์มือถือ) 82 % กล้องถ่ายรูป 77% คอมพิวเตอร์ 52% อุปกรณ์เพื่อความบันเทิงชนิดอื่นๆ 30%

นอกจากนี้ 70 %ของนักท่องเที่ยวชาวไทยยังพกพาสมาร์ทโฟนไปในระหว่างการท่องเที่ยวเนื่องจากอุปกรณ์ไอที (gadget) เหล่านี้สามารถใช้ค้นหาข้อมูลที่จำเป็นและยังสามารถแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวของพวกเขาไปยังเพื่อนฝูงและครอบครัวได้ นักท่องเที่ยวเหล่านี้ยังเป็นผู้ชำนาญในการใช้เทคโนโลยี (tech-savvy) โดยมากถึง 86 เปอร์เซ็นต์เลือกที่จะเช็คอินท์ออนไลน์ในขณะที่อยู่ต่างประเทศ เทรนด์ใหม่ที่เกินขึ้นนี้ไม่ได้กำหนดอยู่เฉพาะการท่องเที่ยวเท่านั่น นอกจากนักท่องเที่ยวชาวไทยจะใช้เทคโนโลยีในการแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวแล้ว 92 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยได้มีการอัพเดทประสบการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการท่องเที่ยวของพวกเขาหลังกลับจากทริปแล้วลงในเว็บไซต์อีกด้วย

ส่วนความเร็วและความเสถียรของอินเตอร์เป็นอีกหนึ่งปัจจัยหลักที่นักเที่ยวใช้เลือกอุปกรณ์ไอที (gadget) ที่จะนำไปเที่ยวในช่วงเทศกาลวันหยุด และยังเป็นปัจจัยหลักสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วโลก (45 เปอร์เซ็นต์) รองลงมาจากขนาดและน้ำหนักของอุปกรณ์ไอที (gadget) เพราะ 25 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวทั่วโลกต้องการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านอินเตอร์เน็ตขณะเดินทางท่องเที่ยว นอกจากนี้ 83 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยเชื่อข้อมูลในอินเตอร์เน็ตในระหว่างการท่องเที่ยวและสองสิ่งที่ขาดไม่ได้คือโทรศัพท์มือถือและกล้องดิจิตอลคอมแพคที่จะต้องพกพาไปด้วยทุกครั้ง

86 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยมีการวางแผนการท่องเที่ยวโดยใช้แหล่งข้อมูลจากอินเตอร์เน็ต อย่าง เว็บไซต์เกี่ยวกับรีวิวการท่องเที่ยว เว็บไซต์เกี่ยวกับผู้ให้บริการ และเว็บไซต์การท่องเที่ยวอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ 81 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยใช้อินเตอร์เน็ตในการจองสิ่งต่างๆสำหรับการท่องเที่ยวด้วยตนเอง โดยรวมแล้วนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย-แปซิฟิกถือเป็นกลุ่มผู้ชำนาญในการใช้เทคโนโลยี (tech-savvy) เนื่องจาก 80 เปอร์เซ็นต์ใช้ข้อมูลอินเตอร์เนตในการวางแผนการท่องเที่ยว 76 เปอร์เซ็นต์ใช้อินเตอร์เนตในการจองสิ่งต่างๆสำหรับทริป และ 73 เปอร์เซ็นต์ใช้อินเตอร์เนตระหว่างการท่องเที่ยว

“เทคโนโลยีได้เข้ามาเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตของคนเราในปัจจุบัน ซึ่งรวมไปถึงประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วย โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ใช้ข้อมูลจากอินเตอร์เน็ตในการวางแผนการท่องเที่ยว ค้นหาข้อมูลในขณะท่องเที่ยวและแบ่งปันประสบการณ์การท่องเทียวออนไลน์ผ่านโซเชียลมีเดียต่างๆหลังกลับจากทริปของพวกเขา คนไทยจำนวนมากขึ้นรู้จักวางแผนและจองสิ่งต่างๆสำหรับการเดินทางผ่านทางออนไลน์ โดย 92 เปอร์เซ็นต์ของนักท่องเที่ยวชาวไทยมีการแบ่งปันประสบการณ์การท่องเที่ยวออนไลน์หลังกลับจากทริป มีความประสงค์ที่จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การท่องเที่ยวด้วยแคมเปญการท่องเที่ยวสุดพิเศษที่เหมาะสมกับความต้องการของนักท่องเที่ยวชาวไทยสมัยใหม่”